��������������
�������������� นับวันอาหารมื้อเช้าดูเหมือนจะถูกมองว่าไม่จำเป็นในสายตาพวกเรามากขึ้นทุกที ๆ� �ก็ด้วยเหตุผลนานัปการที่จะยกกันขึ้นมา อาทิ ไม่มีเวลา ตื่นสาย ต้องการจะลดน้ำหนัก และอีกสารพัดข้ออ้างที่ทำให้หลายคนงดมื้อเช้าจนกลายเป็นนิสัยการบริโภคที่ไม่ถูกต้อง�
�������������� ในความเป็นจริง การรับประทานอาหารเช้าจะช่วยให้สมองของคนเราคิดได้เร็ว จำได้ดี โต้ตอบได้เร็วขึ้น รวมทั้งยังมีอารมณ์ดีกว่าคนที่งดอาหารเช้า นอกจากนี้งานวิจัยยังพบอีกว่า คนที่รับประทานอาหารเช้าจะขาดโรงเรียนหรือขาดงานน้อยกว่าคนที่ไม่ได้รับประทาน และทุกอย่างเริ่มค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อรับประทานอาหารเช้าที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบทางคณิตศาสตร์ สมาธิ ความคิดสร้างสรรค์ ความรวดเร็วในการแก้ปัญหา การรำลึกความจำและความแม่นยำในการทำงาน
���������������แต่การรับประทานอาหารไม่ใช่เพียงแค่รู้สึกอิ่มหากควรคำนึงถึงประโยชน์ของอาหารที่เรารับประทานเข้าไปด้วย เพราะในแต่ละวันร่างกายต้องการสารอาหารต่าง ๆ อย่างครบถ้วนเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและมีสุขภาพดี ซึ่งสมองและระบบประสาทก็เช่นกันที่ต้องการสารอาหารเฉพาะมาบำรุง การรับประทานอาหารให้ครบทุกหมวดหมู่และครบส่วนจะช่วยให้สมองได้รับสารอาหารที่เสริมการทำงานของสมองได้เต็มศักยภาพ���โดยสารอาหารแต่ละชนิดจะมีหน้าที่ที่แตกต่างกันไป เช่น กรดไขมันจะถูกใช้ในการสร้างเซลประสาทที่ช่วยในการรับรู้ กรดอะมิโนจากโปรตีนจะถูกใช้ในการสร้างสื่อประสาทที่ทำหน้าที่ในการถ่ายทอดข้อมูลระหว่างเซลประสาทแต่ละเซล กลูโคสจากอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรตจะเป็นเชื้อเพลิงให้แก่สมองในการสร้างพลังงาน และสารอาหารในกลุ่มวิตามินบี 6 และวิตามินบี 12 ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้และความจำ ฯลฯ
��������������� รู้เช่นนี้แล้ว ใครที่ยังตก ๆ หล่น ๆ เรื่องอาหารเช้ารีบปรับเปลี่ยนเสียใหม่ ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าและมีส่วนของผลไม้ ธัญพืช อาหารโปรตีน เช่น ไก่ ปลา หมู ไข่ นมพร่องหรือขาดมันเนย โดยอาจรับประทานเป็นข้าวต้มปลาหรือไก่ ส้ม 1 ผล นม 1 แก้ว หรือขนมปังโฮลวีท 1-2 แผ่น นมถั่วเหลือง 1 แก้ว ส้ม 1 ผล�
����������������แล้วเช้าวันใหม่ของคุณก็จะเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังควบคู่กับอารมณ์ที่ร่าเริง แจ่มใส สมองปราดเปรื่อง เพราะร่างกายได้รับสารอาหารไปเลี้ยงสมองอย่างเพียงพอนั่นเอง
ที่มา : อ.ศัลยา คงสมบูรณ์เวช ( แบรนด์ เพื่อนแท้ของชีวิต )

�